วันที่ 24 มิถุนายน 2567 ที่บริเวณถนนเลียบทางรถไฟ ด้านหลังโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย (ใต้สะพานยกระดับ) นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยมีนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ อบจ.เชียงใหม่ ให้การต้อนรับพร้อมให้ข้อมูลในการปรับปรุงสถานที่
นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกอบจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากถนนเลียบทางรถไฟเชียงใหม่-ลำพูน ซึ่งดำเนินการก่อสร้างและออกแบบโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง และเปิดใช้งานมาตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจากยังขาดช่วง 2ช่วงทาง ได้แก่ ช่วงตั้งแต่แยกเหมืองง่า เขตจังหวัดลำพูน ถึง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทาง 9.52 กิโลเมตร และช่วงแยกถนนมหิดลจนถึงสถานีรถไฟ ระยะทาง 1.82 กิโลเมตร ซึ่งยังมิได้มีการก่อสร้างถนน ส่งผลให้ขาดความต่อเนื่องในการสัญจรระหว่างตำบล อำเภอ และจังหวัดทำให้เกิดความยากลำบาก
นายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่อบจ.เชียงใหม่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ที่ต้องดูแลด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานทั้งจังหวัด จึงได้ประสานขอความอนุเคราะห์ไปยังนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในการติดตามเรื่องไปยังกรมโยธาธิการให้เร่งออกแบบและประมาณการค่าก่อสร้าง ซึ่งจะใช้งบประมาณ 214 ล้านบาท เป็นการใช้งบรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านการจราจร เกิดความคล่องตัวต่อเนื่องในการสัญจร พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยขณะนี้ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้างถนนตามโครงการดังกล่าวแล้ว และวันนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ซึ่งหลังจากดูพื้นที่จุดนี้แล้ว ก็จะไปติดตามดูความคืบหน้าพื้นที่สวนสาธารณะรถไฟด้วย
ต่อมาเวลา 11.00 น รมช.คมนาคมและคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะตรงข้ามสถานีรถไฟ สวนสาธารณะบนที่ดินของการรถไฟ ณ สวนสาธารณะบนที่ดินของการรถไฟ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ดูหน้างานและรับฟังข้อมูลต่างๆ แล้ว ทั้งสองโครงการที่จะพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟฯไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไร เพราะ ล้วนแต่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน จุดแรกที่ไปดูมาคือการก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟฝั่งตะวันตกที่ยังขาดช่วงอยู่ 2 ช่วงทาง เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะเป็นประโยชน์สำหรับพี่น้องประชาชนในการสัญจรเชื่อมโยงระหว่างจังหวัด อำเภอและตำบลด้วย และยังช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเพราะเป็นเส้นทางเลี่ยงการจราจรเส้นหลัก
สำหรับการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะตรงข้ามสถานีรถไฟ ให้เป็นสวนสาธารณะที่อบจ.เชียงใหม่ได้เข้ามาปรับปรุงสภาพพื้นที่จากที่รกร้างให้แล้ว ต่อไปก็จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างสองหน่วยงานคือการรถไฟแห่งประเทศไทยและอบจ.เชียงใหม่ ซึ่งเบื้องต้นการรถไฟฯได้เห็นชอบในการให้ใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะหรือปอดแห่งใหม่ขนาดใหญ่ใจกลางเมือง และอนาคตเมื่อมีรถไฟความเร็วสูงกับรถไฟรางคู่ขึ้นมาอีก อนาคตพื้นที่แห่งนี้ยิ่งสำคัญและเป็นประโยชน์ทั้งกับคนเชียงใหม่ในพื้นที่ ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่อีกด้วย ก็ได้ฝากไปทั้งสองหน่วยงานให้เร่งดำเนินโครงการให้เร็ว หากสามารถดำเนินการได้เสร็จทันสิ้นปีนี้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ก็ยิ่งจะดีมาก.