เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 26 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ที่ชื่นชอบภาพยนต์ไทยและกลุ่มหนังสั้น ต่างพากันมานั่งรถโดยสารปรับอากาศขอนก่น ซิตี้บัส ที่ออกให้บริการในเส้นทางท่าอากาศยานนานาชาติขอนแกน-บขส.3 และเส้นทาง บขส.3 แบบไปและกลับ เพื่อชมภาพยนต์ไทยและหนังสั้น ที่กลุ่มผู้ผลิตหนังสั้นและภาพยนต์ไทยได้นำมาฉายให้กับผู้โดยสารที่เดินทางด้วยรถปรับอาการขอนแก่น ของ บริษัท บัสซิ่ง ทรานสิท จำกัด ที่ออกให้บริการประชาชนในเส้นทางที่กำหนดตลอดทั้งวัน ตามโครงการ Short Film Short Cut เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ ประจำปี 2567 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นโดย โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ท่ามกลางความสนใจจากผู้โดยสารอย่างมาก เนื่องจากเป็นการนำภาพยนต์และหนังสั้นที่ผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกวดหนังสั้นและภาพยนต์กำหนดมาจัดฉายให้กับผู้โดยสารได้รับชมตลอดทั้งวัน ทั้งยังคงมีการมอบบัตรโดยสารชนิดพิเศษแบบวันเดียว จำนวน 100 ใบให้กับผู้ที่ชื่นชอบได้รับชมภาพยนต์และหนังสั้นบนรถ 100 คนแรกโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นายจักรพันธ์ ชัยศิริ คณะทำงานโครงการ Short Film Short Cut ขอนแก่น กล่าวว่า เป็นมิติใหม่ของการฉายภาพยนต์ไทยบนรถโดยสาร ซึ่งหนังสั้นที่ทำการเปิดฉายบนรถโดยสารของ บริษัท บัสซิ่ง ทรานสิท จำกัด หรือที่เรารู้จักกันในชื่อขอนแก่น ซิตี้บัส เป็นการคัดเลือกผลงานภาพยนต์และหนังสั้นจากผลผลิตผู้ผลิตที่ส่งเข้าร่วมประกวดในงานเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ ทั้งประเทศ 97 ผลงาน โดยคัดเลือกให้เหลือ 20 ผลงานและทำการจัดฉายบนรถบัสโดยสารปรับอากาศแอร์เย็นเฉียบ เปิดให้ผู้โดยสารได้ชมฝีมือและผลงานการผลิตของคนไทย วันละ 3 เรื่อง ซึ่งรถโดยสารทุกคันที่วิ่งนั้นจะวนรอบต่อรอบอยู่ที่ประมาณ 1 ชม.ดังนั้นการจัดเรียงลำดับหนังแต่ละเรื่องและแต่ละรอบนั้นจะต้องจบภายใน 1 ชม.ตามรอบที่รถวิ่ง ซึ่งจะสร้างความแปลกใหม่ ความเพลิดเพลินและแสดงให้เห้นถึงแนวคิดที่สร้างสรรค์ของการนำหนังไทยฉายบนรถบัสอีกด้วย
“ ผู้ที่สนใจสามารถรับบัตรโดยสารซึ่งคณะทำงานฯได้แจกฟรีจำนวน 100 ใบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหนังไทยและหนังสั้นได้ชมกันแบบฟรีๆ โดยสามารถขอรับได้ที่บนรถ หรือจุดกระจายบัตรตามที่กำหนด ซึ่งบัตร 1 ใบสามารถดูได้ทั้งวัน ซึ่งพบว่ามีผู้ที่ชื่นชอบหนังไทย และหนังสั้น นั่งดูหนังบนรถตลอดวันแล้วก็มี และหากท่านใดพลาดรับบัตรฟรีก็สามารถที่จะใช้บริการรถขอนแก่นซิตี้บัตรในราคาปกติและนั่งชมไปพร้อมกันได้อีกด้วย”
นายจักรพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากการกำหนดจัดกิจกรรมฉายหนังไทยและฉายหนังสั้นบนรถบัสโดยสารแล้ว คณะทำงานยังคงขอเชิญชวนสายหลอน สายลุย ชมหนังผีในวัด และร่วมกิจกรรมต่างๆ แบบหลอนสยองในวันที่ 30 มิ.ย.ที่วัดป่าอดุลยาราม ย่านกังสดาล ด้านข้างมหาวิทยาลัยขอนแก่น เนื่องจากที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าการชมหนังกลางแปลงมักจะดูในวัดหรือตามศาลเจ้าพ่อหรือศาลเจ้า ดังนั้นการนำเสนอสิ่งที่คนไทยทำ โดยอิงตามวัฒนธรรมและวิถีเดิมของชุมชนจึงกลายมาเป็นแนวคิดของการฉายหนังผีในวัดแบบชวนขนหัวลุก ที่ผู้ที่ชื่นชอบความสนุกและความท้าทายชวนสยองขวัญนั้นพลาดไม่ได้
