เวลา 06.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง ฝ่ายปกครอง อำเภอพาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พาน ภายใต้การอำนวยการของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พลตำรวจตรี มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย นายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน พันตำรวจเอกจิตรกร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้กำกับการสถานนีตำรวจภูธรพาน ได้สั่งการให้ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอพานที่ 11 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานนีตำรวจภูธรพาน และชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงราย
ได้ปฏิบัติการ”เชียงรายฟ้าใส” ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย เพื่อกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดโดยได้ เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 167 หมู่ที่ 1 ตำบลม่วงคำ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เนื่องจากได้รับการแจ้งเบาะแสมาว่าบ้านหลังดังกล่าวมีวัยรุ่นทั้งหญิงและชายอยู่กันหลายคนมีการมั่วสุมเสพยาเสพติด และเป็นศูนย์กลางในการกระจายยาเสพเสพติดให้กับวัยรุ่นในหมู่บ้านจนติดงอมแงม
โดยในระหว่างเข้าตรวจสอบมีกลุ่มวัยรุ่นหลบหนีปีนข้ามกำแพงได้จำนวนหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าจับผู้หลบหนีได้ 1 คน และตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบบุคคลอีกจำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน โดยในขณะตรวจค้นยังมีอาการมึนเมาอยู่
ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบยาเสพติดประเภทยาบ้า ประมาณ 5,000 เม็ด ยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง อาวุธปืนจำนวน 5 กระบอก เป็นปืนสั้น 3 กระบอก ยาว 2 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ กระจายรอบพื้นที่ เครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนมาก อาวุธมีด 7 เล่ม เลื่อยโซ่ยนต์จำนวน 3 เครื่อง และอุปกรณ์การเสพ กระจายทั่วบริเวณ ในระหว่างตรวจค้นยังมีโทรมาสั่งยาบ้าจำนวน 70 เม็ด เนื่องจากมาออเดอร์เข้ามาด้วย และจากการสอบถามผู้ต้องหา พบว่ารับยาบ้ามาตกเม็ดละ 5-6 บาท และขายต่อในราคาเม็ดละ 20 บาท
หลังจากทำการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วได้นำของกลางทั้งหมดพร้อมตรวจยึดรถยนต์กระบะจำนวน 4 คัน รถมอเตอร์ไซค์จำนวน 3 คัน ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรภานเพื่อพิสูจน์ความผิดและขยายผลโดยชุดสืบสวนพานร่วมทำการสืบสวนขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญของอำเภอพานเพื่อทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดที่กำลังแพร่ระบาดในพื้นที่อำเภอพานต่อไปและตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดหรือที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดเพื่อเป็นมาตรการในการปราบปรามผู้ทำเป็นเกี่ยวกับทรัพย์สินอย่างเด็ดขาดตามนโยบายของรัฐบาลและผู้บังคับบัญชาทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจอย่างจริงจัง
