คืบหน้าเรือลาวขนชาวเมียนมาล่มกลางน้ำโขงยังไม่พบผู้สูญหาย

จากกรณีเรือโดยสารรับเหมาพาชาวเมียนมาไม่ต่ำกว่า 50 ชีวิต ออกจากฝั่งลาวเลาะโขงสามเลี่ยมทองคำ คาดกำลังมุ่งหน้าขึ้นฝั่งท่าขี้เหล็กกลับเมียนมา ล่มกลางแม่น้ำโขงจมยกลำ คนเห็นเหตุการณ์ช่วยได้ 10 ที่เหลือยังสูญหาย เมื่อเย็นวันที่ 2 ก.ย.67 ได้เกิดอุบัติเหตุเรือโดยสารล่มในแม่น้ำโขงใกล้กับท่าเรือของเขตปกครองพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามกับ อ.เชียงแสน และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา

เบื้องต้นมีรายงานว่าเรือที่เกิดเหตุเป็นเรือโดยสารสัญชาติ สปป.ลาว เป็นเรือเหมาพาชาวเมียนมาจำนวนประมาณ 50 คน เดินทางจากฝั่ง สปป.ลาว เลาะริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขต สปป.ลาว มุ่งหน้าจะไปทางฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก

โดยนายณัฐพล จันทโบแว่น อายุ 23 ปี คนขับเรือท่องเที่ยวพื้นทีสามเหลี่ยมทองคำ กล่าวว่าในช่วงเกิดเหตุคนในฝั่งไทยเห็นเหตุการณ์ไม่ชัดเจนเนื่องพื้นที่เกิดเหตุอยู่ไกล แต่พอเห็นได้ โดยพบว่าเรือที่ล่มกำลังพยายามที่จะบรรทุกโดยสารออกจากท่าเรือในฝั่ง สปป.ลาว โดยมีการผลักดันหัวเรือออกจากฝั่งแล้ว แต่คาดว่าสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด จึงมีเรืออีกลำพยายามมาชักลากเพื่อช่วยเหลือ แต่ด้วยกระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวมากทำให้เรือผลิกคว่ำผู้โดยสารทั้งหมดจึงไหลมากับกระแสน้ำ บางคนก็ถูกน้ำพัดเข้าท้องเรือที่อยู่ริมตลิ่ง แม้คนในพื้นที่จะพยายามใ้ชเรือออกมาช่วยแต่ก็ช่วยได้บางส่วนเท่านั้น แต่ไม่รู้จำนวนว่ามีผู้โดยสารเท่าไหร่จึงไม่รู้ว่าช่วยได้กี่คนและสูญหายไปกี่คน

“ในช่วงนี้การเดินเรือในแม่น้ำโขงค่อนข้างจะอันตราย เนื่องเป็นช่วงฤดุน้ำหลากน้ำจะไหลเชี่ยว และเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเแพะาะเมื่อช่วงเรือบรรทุกสินค้าแล่นผ่าน ยิ่งเรือบรรทุกปูนซีเมนต์ ทำให้เกิดคลื่นน้ำใหญ่เรือเล็กเสี่ยงจะคว่ำได้ ทางคนขับเรือจึงต้องขับด้วยความระมัดระวังและบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิด 12 คน การเกิดเรือล่มก็เชื่อว่าน่าจะบรรทุกผู้โดยสารมากเกินไปและเครื่องยนต์อาจขัดแข้องจึงเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้”นายณัฐพล กล่าว

ทางด้านพล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 กล่าวว่าทางตำรวจภาค5พอทราบเหตุการณ์แล้วเช่นกัน ทราบว่าเป็นการบรรทุกแรงงานชาวเมียนมา ข้ามจากพรมแดนสปป.ลาวมายังชายแดนเมียนมา แต่เกิดอุบัติดเหตุเรือล่มระหว่างทาง ซึ่งพบว่ามีผู้โดยสารเป้นจำนวนมาก และยังมีสูยหายในแม่น้ำโขง แต่ทางการเมียนมาหรือ สปป.ลาวยังไม่มีประสานข อความช่วยเหลือมายังทางการไทยให้ช่วยเหลือ แต่ทางตำรวจเองไม่ได่นิ่งนอนใจได้ให้ทางตำรวจประสานทีมงานกู้ภัยช่วยดูแลตลอดแนวน้ำโขง เพื่อช่วยเหลืออีกทาง หากพบเห็นก็ให้่วยเลหือทันที แต่จนถึงขณะก็ยังไม่พบผู้สูยหาหรือผู้เสียีวิตเพิ่มแต่อย่างไร