วันที่ 18 ก.ย. 67 สภาทนายความ จ.พะเยา นำโดยนายวัชระ บุญปลอด พร้อมด้วยเพื่อนทนายความอีก 5 คน เดินทางไปที่บริเวณสถานที่ก่อสร้างอุโมงค์แม่กา โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ในพื้นที่บ้านหม้อแกงทอง ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา ซึ่งอยู่ติดกับถนนพหลโยธินขาล่อง ด้านทิศตะวันออก เนื่องจากได้รับการร้องขอจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือน อาคารร้านค้า หอพักนักศึกษา ย่านธุรกิจการค้า หน้ามหาวิทยาลัยพะเยา เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 17 ก.ย.67 ที่ผ่าน โดยมวลน้ำที่เกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 2 ชม.ตั้งแต่เวลา 02.000-04.00 น.ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็วและเชี่ยวกราด ระน้ำสูงเกือบ 2 เมตร ซึ่งผิดแผดไปจากธรรมชาติ เนื่องจากกระแสน้ำมีสีดินแดงขุ่นมาก โดยสงสัยมวลน้ำมหาศาลส่วนหนึ่งมาจากการก่อสร้างทางรถไฟ ที่ขุดเจาะอุโมงค์ นำดินมาถมทับร่องน้ำและพื้นที่รองรับน้ำกว่าหลายร้อยไร่ และมีคันดินของพื้นที่ก่อสร้างพังทลาย ส่งผลให้น้ำที่ถูกกักขังไว้ในพื้นที่ก่อสร้างไหลสมทบมาพร้อมกับน้ำป่า จึงสร้างความเสียหายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
จากการสอบถามชาวบ้านใกล้จุดที่คันดินพื้นที่ก่อสร้างฯ แตก บอกว่า พื้นที่นา และพื้นที่รกร้างตามแนวสร้างทางรถไฟเดิมเป็นพื้นที่ราบตามธรรมชาติ แต่ปัจจุบันมีการขนดินมากองเกือบเต็มพื้นที่ ความสูงประมาณ 7-10 เมตร ทำให้มวลน้ำไม่มี่ที่ไปยอมรับว่าวันเกิดเหตุฝนตกหนักมากทีเดียวนานกว่า 2 ชม.
ด้านนายวัชระ บุญปลอด ตัวแทนสภาทนายความ จ.พะเยา กล่าวภายหลังเดินสำรวจพื้นก่อสร้างซึ่งมีการนำดินมากองถมทับไว้เป็นบริเวณกว้างนับร้อยไร่ ว่า ได้พบแนวถนนที่ทำเป็นคันดินกั้นน้ำมีท่อฝังไว้ใต้แนวถนน ซึ่งถูกน้ำพัดพังทลาย ตรงที่พบเห็นคิดว่ามีเปอร์เซนสูงที่ชาวบ้านเค้าสงสัย เพราะว่ามวลน้ำทั้งหมดฟังจากปากชาวบ้านมาปกติธรรมชาติแล้วต่อให้ฝนมากขนาดไหนเขาก็จะไหลไปตามธรรมชาติกระจายไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้มาอัดตรงนี้ปรากฏว่ามีคันดินขวางน้ำไว้และอุ้มน้ำจำนวนมากมหาศาล แต่มีการวางท่อแค่เมตรเดียว มันก็ระบายไม่ทันพอฝนตกเยอะจึงระบายไปทีเดียวเลย ผมว่าใช่เหตุนี้เลยชัดเจน เมื่อถามว่า หลังจากพบเหตุแบบนี้แล้วทางสภาทนายความ จ.พะเยา จะให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยอย่างไร ทนายวัชระ ตอบว่า ส่วนนี้แบ่งเป็นสองประเด็น ประเด็นที่ได้รับความเสียส่วนตัว เหมือนนิสิต ม.พะเยา และหอพัก ส่วนหนึ่ง ที่เค้ามีประกันภัยไว้ ส่วนที่มาพบตรงนี้เป็นภาพรวมภาพใหญ่ ตรงนี้เป็นต้นเหตุจริงๆ ก็ต้องมีใครควรรับผิดชอบ กับชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งนี้ ซึ่งดูแล้วไม่ใช่น้ำท่วมอย่างธรรมชาติ ถ้าเป็นไปได้ตามที่เราคิด ถ้าเหตุเกิดจากตรงนี้จริงๆ คิดว่ามันคงต้องมีคนรับผิดชอบให้ได้ ทนายวัชร กล่าว