คืนวันที่ 18 ต.ค. 67 ช่วงกลางคืน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพระครูไพจิตธรรมาภรณ์ (อดุลย์) เจ้าอาวาสวัดเชียงทองเจ้าคณะตำบลท่าวังทอง บ้านศาลา ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา พร้อมพระภิกษุสามเณรศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนในพื้นที่ตำบลท่าวังทองได้ร่วมกันทำพิธีทำบุญ เข้ากรรมรุกขมูลในป่าช้าบ้านหนองหวี ต.ท่าวังทอง คืนวันออกพรรษา โดยคณะสงฆ์ทำพิธีสวดมนต์ไหว้พระเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับสัมภเวสีที่อยู่ภายในป่าสุสานบ้านหนองหวี ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา เพื่อให้ได้ไปยังในภพภูมิที่ดีพ้นจากเวรจากกรรมตามความเชื่อที่มีมาตั้งแต่โบราณกาลว่าวันออกพรรษาสัมภาษณ์เวสีก็จะออกพรรษาเหมือนพระเหมือนคนในโลกมนุษย์ด้วย
สำหรับบรรยากาศภายในสุสานบ้านหนองหวีค่ำคืนวันออกพรรษาทางพระสงฆ์ก็ได้สวดมนต์ไหว้พระแผ่เมตตาเข้ารุกขมูลจำวัดนอนในป่าช้า ตามพิธีกรรมเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับสัมภเวสีและผู้ล่วงลับไปแล้วที่ได้มาทำการฌาปนกิจภายในสุสานแห่งนี้ ได้ไปสู่สัมปรายภพที่ดีหลังเสร็จพิธีก็ได้มีการจุดธูปเทียนบอกเจ้าที่เจ้าทางและได้มีการจุดประทัดเช่นไหว้สัมภเวสีภายในสุสานจำนวน 2 ชุด บนเชิงตะกอนหรือเมรุเผาศพ ทางลูกศิษย์ลูกหาได้ทำการจุดประทัดชุดแรกได้เลขหางประทัด2 ตัว 50 และ 3 ตัว 212 หลังจากจุดชุดแรกแล้วก็ทำการจุดชุดที่ 2 หลังจากสิ้นเสียงประทัดพากันไปเก็บหางประทัดที่มีตัวเลขติดเอามาเทียบกันดูพบว่าเลขหางประทัดตรงกับเลขหางบรรทัดชุดแรกที่จุดไปแล้วทั้ง 2 ตัว 3 ตัว เหมือนเดียวกันหมดซึ่งก็ได้สร้างความฮือฮาให้กับบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและผู้มาร่วมงานพิธี ทำบุญ หลังจากได้เลขหางประทัดทุกคนต่างพากัน นำโทรศัพท์มาถ่ายไว้ เพื่อนำไปเสี่ยงโชค และเชื่อว่าสัมภเวสีหรือผีในป่าช้าได้ให้โชคแก่ผู้ที่เข้ามาร่วมทำบุญภายในสุสานเมื่อเสร็จพิธีก็เริ่มทำการฉายหนังกลางแปลงให้กับผีและคนในป่าช้าบ้านหนองหวีดูค่ำคืนวันออกพรรษานี้ตลอดคืน
จนสว่างได้มีชาวบ้านต่างพากันมาดูหนังกลางแปลงโต้รุ่งเป็นเพื่อนผีภายในสุสานกันอย่างคึกคัก
สำหรับพิธีทำบุญเข้ากรรมรุกขมูลป่าช้าสุสานบ้านหนองหวี ฉายหนังกลางแปลงให้ผีดูในป่าช้าคืนวันออกพรรษาได้มีเจ้าภาพร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพฉายหนังกลางแปลงและเจ้าภาพในการจัดสร้างวัสดุอุปกรณ์สาธารณูปโภคสาธารณประโยชน์และในบ่าช้า ตำบลท่าวังทอง เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับนายดิเรก ศรีวิลาศ ครบ 100 วัน ดังกล่าว ด้วย