เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 อ.พล จ.ขอนแก่น ได้มีชาวบ้านกว่า 200 คนมารวมตัว เพื่อตะโกนขับไล่ น.ส.ณัชชานุช สุดชาดี ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ออกนอกพื้นที่ พร้อมทั้งการติดตั้งป้ายขับไล่ไว้ที่บริเวณริมรั้วสำนักงานและการนำรถปราศรัยขนาดใหญ่จอดเข้าไปภายในอาคารสำนักงาน โดยแกนนำชาวบ้านและประชาชนที่ไม่พอใจการทำงานของ ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ต่างหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศัรยกล่าวโจมตีการทำงาน และข้อทูจริตต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ อย่างเข้มงวด
นายสมชาติ สง่าภาคภูมิ ผู้แทนภาคประชาชนในคณะกรรมการศึกษาธิการ จ.ขอนแก่นและ คณะกรรมการ อ.ก.ค.ศ.สพป.ขอนแก่น เขต3 กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมคใรอย่างยิ่งที่จะให้เกิดขึ้นในพื้นที่ สพป.ขอนแก่น เขต 3 ซึ่งตนเองในฐานะผู้แทนภาคประชาชนและ คณะกรมการ อกคศ.ได้ทราบถึงข้อมูลและได้ยินเรื่องราวจากบุคลากรทางการศึกษา และผู้ปกครอง มาอย่างต่อเนื่องถึงพฤติกรรมและการกระทำของ ท่าน ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 จนกระทั่งมีเอกสารการทุจริตและเอกสารที่ส่อถึงการกระทำความผิดที่ชัดเจน ทำให้วันนี้ คน อ.พล และพื้นที่อำเภอข้างเคียงไม่ทน มารวมตัวกันเพื่อที่ขับไล่ ผอ.ฯให้ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชม.และให้กระทรวงศึกษาธิการและ เลขา สพฐ.ได้ตั้งกรรมการสอบสวน ในการกระทำที่มีเอกสารชัดเจน 8 เริ่อง
“ ท่าน ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ได้ประมาณ 1 ปี สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างมาก มีการแบ่งฝ่าย แบ่งพวก ทั้งภายในองค์กรและสถานศึกษาในสังกัด มีการนำเงินบริจาคจากกฐินพระราชทาน ไปใช้ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ โดยมีการเบิกจ่ายไปใช้ในนามส่วนตัว โดยบัญชีเบิกจ่ายชัดเจน เงินงบค่าเช่าใช้บริการสัญญาณอินเตอร์เน็ตโรงเรียน ที่โรงเรียนในสังกัดเบิก-จ่ายทุกเดือน แต่ไม่ยอมจ่ายไม่รู้งเนไปไหนจนบรัทฯที่ให้บริการตัดสัญญาณไปจนส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนของโรงเรียน มีการคัดเลือกพนักงานที่ส่อไปในทางทุจริต โดยให้ลูกหลานตนเองเปลี่ยนชื่อและนามสกุล ซึ่งเดียวสกุลเดียวกันกับ ผอ.และมาสอบคัดเลือกเพื่อปกปิดความทุจริตของตนเอง”
นายสมชาติ กล่าวต่ออีกว่า มีการจัดกอล์ฟเพื่อระดมทุนกองทุนช่วยเหลือนักเรียนประสบอุบัติภัย สพป.ขอนแก่น เขต 3 แต่จนถึงวันนี้เงินไม่นำเข้ากองทุนและไม่ร็เงินที่ได้มีเท่าใดและหายไปไหน ไม่ส่งเสริมและสนับสนุนเครือข่าย หรือหน่วยงานอื่นที่มาสนับสนุน โดยไม่ยอมเซนท์รับเอกสารต่างๆทำให้โรงเรียนขาดโอกาสขาดการได้รับผลประโยชน์ในการพัฒนาศึกษาอย่างมาก และที่สำคัญคือการออกคำสั่งโดยแอบอ้างมติ อ.ก.ค.ศ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ซึ่งไม่ตรงตามระเบียบการประชุม เพื่อให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่มาช่วยราชการที่สำนังกานเขตฯให้กลับไปปฎิบัติหน้าที่โรงเรียนเดิมและการมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในฐานะผู้บังคับบัญชา มีการปะทะคารมและใช้วาจาไม่เหมาะสม
“ ทุกอย่างเรามีข้อมูลและเอกสารที่ชัดเจน ภาคประชาชนและชุมชนทนไม่ได้กับสิ่งที่ ผอ.ฯดำเนินการ ย้ายมาอยู่ที่ อ.พล 1 ปีสร้างปัญหาต่างๆอย่างมากไม่ใช่พวกก็ถูกทอดทิ้งไม่สนใจ และการกระทำเชิงทุจริตตามเอกสารที่ส่งให้กับสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องจากใจคนเมืองพลและพื้นที่ใกล้เคียงหลายร้อยคนที่มาวันนี้คือต้องการให้ย้ายออกนอกพื้นที่ใน 24 ชม.และมีการตั้งกรรมการสอบสวน ซึ่งแกนนำภาคประชาชนและคนขอนแก่น จะเดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.เพิ่มพูล ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และ นายธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ สพฐ.เพื่อนำเอกสารและข้อร้องเรียนต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงของการชุมนุมและเปิดเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของ ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ตลอดระยะเวลากว่า 2 ชม.ได้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พล มาบันทึกภาพผู้ชุมนุมและสื่อมวลชนอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ติดราชการนอกพื้นที่