ผบช.ภ.9 เผยคืบหน้าคดีคนร้ายยิงนายกอาร์ม ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต ยังไม่ตัดประเด็นส่วนตัว

คืบหน้ากรณีคนร้ายจำนวน 4 คน แต่งกายอำพรางตัวเป็นสตรีมุสลิม ใช้อาวุธปืนสงคราม ยิงนายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม อายุ 55 ปี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต ภายในห้องประชุม ห้างหุ้นส่วนจำกัดแฮนด์อินแฮนด์ พื้นที่บ้านยาแลเบาะ หมู่ที่ 5 อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน เอ็ม-16 ที่บริเวณหน้าอก จำนวน 19 นัด และเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน เอ็ม-16 ตกอยู่ภายในห้องประชุม จำนวน 19 ปลอก จากการตรวจสอบ พบภาพวงจรปิดบริเวณหน้าห้องทำงานของผู้ตายจะเห็นว่า มีกลุ่มคนร้ายหลายคนใส่ชุดปิดบังอย่างมิดชิดทุกคนใส่ผ้าคลุมหัว โดยมีการแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม จากภาพจะเห็นว่าคนร้าย 2 คนได้ถืออาวุธสงครามเข้าไปในห้องทำงานของผู้ตาย จากนั้นไม่กี่วินาที่ ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นแบบรัวหลายนัด ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะวิ่งหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ 14 พฤศจิกายน 2567 ทาง พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า กรณีเหตุคนร้ายยิงนายกรือเสาะ ตนเองได้ประชุมเอง 2 ครั้ง และก็ได้ประชุมติดตามมาโดยตลอด เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และก็เป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนทั้งหมด เพราะว่าตัวผู้ถูกกระทำเป็นที่คนรู้จัก ไ มีตำแหน่งเป็นนายกเทศบาล ตำแหน่งนายกสมาคมกีฬา เป็นทั้งวิสาหกิจต่างๆซึ่งก็อยู่กันมานาน ในคดีนี้ก็ได้ในที่เกิดเหตุต่างๆในเส้นทางต่างๆอันนี้ได้รายละเอียดพอสมควรแล้วในข้อเท็จจริง ยังหลือข้อมูลพยานลึกอีกางส่วน ที่จะต้องติดตามต่อไป รวมทั้งกำลังเก็บประเด็นทุกประเด็น เอาข้อเท็จจริงที่ได้ มามาวิเคราะห์กับฐานข้อมูล มาวิเคราะห์กับความเชื่อมโยงต่างๆก็มีความคืบหน้าไว้เยอะ

“ตามที่ตั้งประเด็นต่างๆไว้ก็คือตัวท่านเองเป็นคนที่รู้จักคนกว้างขวาง และมีตำแหน่งค่อยข้างเยอะมันก็เลยประเด็นค่อนข้างหลากหลายว่าตรงนี้เราจะเคลียร์ทุกประเด็น ซึ่งบางประเด็นมันก็มาพันอีกก็ขอเวลานิดหนึ่งแต่ว่าผมยืนยันว่ามีความคืบหน้าเยอะโดยพฤติกรรมการก่อเหตุมีความคืบหน้าไปเยอะ การก่อเหตุตรงนี้ก็เรียนเพิ่มเติมอีกนิดหนึ่ง คงจะทราบแล้วละเป็นการกระทำจากผลการผลพิสูจน์บางเรื่องที่เราตรวจพิสูจน์ที่การกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุ่นแรง แต่ว่ามูลเหตุสาเหตุหรือการกระทำจะเป็นยังไงขอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน แต่ก็มีความคืบหน้าไปเยอะแล้ว” ผบช.ภ.9 กล่าว
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ยังกล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นสำหรับกลุ่มคนร้ายยังเชื่อว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุในพื้นที่ อ.รือเสาะ และพื้นที่ใกล้เคียง แต่จะมีกลุ่มใดบ้างมาเกี่ยวข้อง ต้องขอตรวจสอบนิดหนึ่ง แต่ว่าประเด็นที่ให้ความสนใจ คือ การกระทำไม่ใช่ว่าก่อเหตุได้เลย ต้องมีผู้สนับสนุน ผู้รู้ต้นทาง ผู้ให้ความช่วยเหลือต่างๆ มีเส้นทางมีอุปกรณ์ มียานพาหนะอันนี้ขอไล่ดูรายละเอียด ถ้าเวลาเราจะดำเนินคดีเราไม่ได้ดำเนินคดีด้วยความรู้สึก เพียงแต่ความเท็จจริงเรารู้แต่จะเอาความรู้สึกมันไม่ได้ มันต้องเอาข้อมูลจากการตรวจพิสูจน์จะพยานหลักฐานที่มันชี้ชัด ว่าเป็นใครและก็ตั้งใจในการรวบรวมพยานหลักฐานมันต้องชี้ชัดพอสมควร ก็ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่งแต่คืบหน้าไปเยอะ