คาด มีนกปรอดหัวโขนไทยและเทศ ร่วม 3,000 ตัว กระตุ้นเศรษฐกิจทางตรงและอ้อม 10 ล้านบาท หวังสร้างอาชีพ-รายได้ยั่งยืนในอนาคต
วันนี้ (10 เม.ย. 2568) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำ 4 หน่วยงาน ร่วม แถลงข่าวการจัดมหกรรมแข่งขันประชันเสียงนกปรอดหัวโขนนานาชาติครั้งที่ 1 โดยร่วมกับ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า สภ.เมืองยะลา เทศบาลนครยะลา และชมรมนกปรอดหัวโขน 5 จชต. กำหนดจัดมหกรรมฯ ดังกล่าว ระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน 2568 ในเวลา 08:30 น. ถึง 16:00 น. ณ ศูนย์เยาวชน และ สนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา
สำหรับการจัดมหกรรมแข่งขันประชันเสียงนกปรอดหัวโขนนานาชาติ ศอ.บต. ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2566 ในการส่งเสริม soft power เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน โดยเสนอผ่านคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ซึ่งมีมติเห็นชอบ ส่งเสริมและพัฒนา นกปรอดหัวโขน หรือ นกกรงหัวจุก ให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจในพื้นที่ 5 จชต. ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลาและสตูล เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงนกปรอดหัวโขนให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืน
นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวถึงการจัดมหกรรมการฯในครั้งนี้ว่า นอกเหนือจากการจัดการแข่งขัน สิ่งสำคัญคือการสร้างความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ดังนั้นความร่วมมือของส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดย ศอ.บต.ตั้งเป้าใน 3 ปีแรก เพิ่มมูลค่าการค้าให้ได้ 30% จากการจัดมหกรรมแข่งขันประชันเสียงนกปรอดหัวโขนนานาชาติปีละ 1 ครั้ง และตั้งเป้าสร้างเครือข่ายผู้เลี้ยงและเพาะพันธุ์ไม่น้อยกว่า 500 คน ภายใน 1 ปี พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ให้มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้จะมีการสนับสนุนและอนุรักษ์การปล่อยนกคืนสู่ป่ามากกว่า 500 ตัวต่อปี โดยการจัดงานมหกรรมแข่งขันประชันเสียงนกปรอดหัวโขนนานาชาติครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันจากทั่วประเทศไทย และจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เข้าร่วมกว่า 3,000 ตัว ครอบคลุมการแข่งขัน 6 ประเภท ได้แก่ เสียงทอง วีไอพี สากล 4 จี แฟนซี และ โอเพ่น ภายในงานยังมีการจัดแสดงสินค้า OTOP การจำหน่ายสินค้า และนิทรรศการวิชาการเกี่ยวกับ วงจรนกปรอดหัวโขน โดยคาดหวังว่าจะสร้างรายได้โดยตรงกว่า 10 ล้านบาท และรายได้ทางอ้อมจากการพัฒนาเครือข่ายการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพของพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนผู้เลี้ยงนกปรอดหัวโขน และยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างยั่งยืน
ด้านนายอับดุลเลาะ สารีมา ปธ.ชมรมนกกรงหัวจุกจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า การจัดการแข่งขันนกกรงหัวจุกหรือนกปรอทหัวโขนในครั้งนี้ ถือเป็นการจัดการแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เท่าที่เคยมีมา ซึ่งจะเป็นการผลักดันนกกรงหัวจุกให้เป็นซอหพาวเวอร์ของพื้นที่ เนื่องจากสามารถต่อยอดไปสู่การเพาะเลี้ยงพันธุ์นกในฟาร์มเพื่อส่งขายให้กับผู้ชื่นชอบ ซึ่งไม่ใช่การไปนำนกจากธรรมชาติมาจำหน่าย และยังสามารถต่อยอดด้านอาชีพได้อีกหลายช่องทาง ทั้งการทำกรงนกสวยงาม หรือ การประกอบอาหารนกจำหน่ายแก่กลุ่มผู้เลี้ยงนก โดยการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ จะมีนกทั้งในและนอกประเทศเดินทางเข้ามาแข่งขันจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้
ทั้งนี้ ศอ.บต. และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพ และร่วมงานมหกรรมแข่งขันประชันเสียงนกปรอดหัวโขนนานาชาติครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน 2568 เวลา 8:30 น. – 16:00 น. ณ ศูนย์เยาวชน และสนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของนกปรอดหัวโขน สัตว์เศรษฐกิจที่เป็นอัตลักษณ์ของพื้นที่ และร่วมสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนอย่างแท้จริง