รายงานข่าวแจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 พ.ค.นี้ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จัดให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยว ณ หนองบัวหลวง บ้านสันมะเค็ด ม.9 ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน ซึ่งเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่กว้างประมาณ 246 ไร่ ภายใต้สโลกแกน “แอ่วหนอง ล่องแพ แลวิว ณ หนองบัวหลวง” โดยสถานที่ดังกล่าวมีการจัดพัฒนาให้มีเพิงพักผ่อนและร้านค้าริมฝั่งรวมทั้งแพให้บริการภายในหนองน้ำ รวมทั้งมีเวทีและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ในพิธีเปิดมีขึ้นวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมามีนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ประธานสภาวัฒนธรรม จ.เชียงราย เป็นประธานและนายพินิจ แก้วจิตคงทอง นายอำเภอเชียงแสน และนายศุภสัณห์ วิริยะ นายก อบต.ป่าสัก นำผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมครบครัน
การเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ดังกล่าวจัดให้มีเวทีริมหนองบัวหลวงโดยมีการแสดงคาบาเร่โชว์ การประกวดมิส ควีน หนองบัวหลวงสาวประเภท 2 การแข่งขันพายเรือชักคะเย่อ 4 ทีม การแข่งขันมวยทะเล 4 คู่ การแข่งขันพายเรือหัวใบ้ท้ายบอด ฯลฯ โดยตลอดรายการมีการเปิดให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ไปร่วมกันเปิดงานได้ใช้บริการสถานที่โดยรอบหนองบัวหลวงซึ่งจัดเป็นร้านค้าให้บริการรวมทั้งแพไม้ไผ่พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ห่วงยาง เสื้อชูชีพ ฯลฯ และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ รวมทั้งทหารเรือจากหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย จัดเจ้าหน้าที่ไปคอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวภายในหนองบัวหลวงด้วย
นายศุภสัณห์ เปิดเผยว่าหนองบัวหลวงเป็นหนองน้ำที่รับน้ำจากป่าชุมชนสันมะเค็ดเนื้อที่กว่า 500 ไร่ และดอยสะโง๊ะ ที่ผ่านมาเป็นแหล่งเลี้ยงกระบือและหนองน้ำที่ชาวบ้านใช้หาปลารวมทั้งเพื่อการเกษตร ต่อมาปี 2557 ท้องถิ่นจึงเริ่มเข้าไปขุดลอกและพัฒนาจนมีเนื้อที่ของหนองรวมประมาณ 246 ไร่ กระทั่งเริ่มมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเห็นว่าเป็นสถานที่ร่มรื่นและมีทิวทัศน์สวยงามลายล้อมด้วยขุนเขาจึงได้เดินทางไปท่องเที่ยวกันมากขึ้น ทาง อบต.ป่าสัก เห็นถึงความสำคัญจึงได้ร่วมกับประชาชนในพื้นที่เข้าไปพัฒนาโดยมีการประชาคมหมู่บ้านและจัดตั้งเป็นกองทุนอนุรักษ์หนองบัวหลวงเพื่อการพัฒนาสถานที่แห่งนี้
นายศุภสัณห์ กล่าวว่าปัจจุบันกองทุนมีคณะกรรมการที่เข้าไปพัฒนาเพื่อให้มีการอนุรักษ์ธรรมชาติและสาธารณะประโยชน์แห่งนี้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ สนับสนุนให้เกิดการสร้างอาชีพและรายได้ รวมทั้งสร้างความสามัคคีและเข้มแข็งของคนในชุมชน สิ่งสำคัญคือภูมิประเทศของสถานที่ตั้งอยู่ระหว่างสามแหลี่ยมทองคำและเมืองประวัติศาสตร์เชียงแสน อ.เชียงแสน โดยนักท่องเที่ยวมักแวะไปเยือนเพื่อท่องเที่ยวและถ่ายภาพในช่วงสั้นๆ แต่ไม่มีสถานที่เพื่อพักผ่อน รับประทานอาหารและดื่มกินกันมากนัก ดังนั้นหนองบัวหลวงแห่งนี้จึงถือเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้คงอยู่ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ปัจจุบันมีการปรับปรุงสถานที่ เปิดให้มีร้านค้าพร้อมแพบริการจำนวน 56 ร้าน ร้านค้าไม่มีแพบริการจำนวน 10 ร้าน ร้านค้าแผงลอยจำนวน 10 ร้าน ปัจจุบันจึงมีแพให้บริการนักท่องเที่ยวในหนองบัวหลวงประมาร 400 ลำ ซึ่งรายได้จากการให้บริการก็จะนำเข้ากองทุนเพื่อนำมาพัฒนาหนองบัวหลวงแห่งนี้ต่อไป จากนั้นในปี 2560 ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองจะมีการอนุมัติงบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาถนนและระบบไฟฟ้ารอบหนองบัวหลวงซึ่งจะทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.เชียงราย อีกแห่งหนึ่งต่อไป
นายศุภสัณห์ กล่าวด้วยว่าช่วงต้นนี้ทางกองทุนได้มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวหนองบัวหลวงภายใต้สโลแกน “แอ่วหนอง ล่องแพ แลวิว ณ หนองบัวหลวง” เพื่อรองรับฤดูร้อนและเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยคาดว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะนักท่องเที่ยวไปเยือนไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ซึ่งทางชุมชนมีการจัดเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยโดยร่วมกับฝ่ายปกครอง นรข.เขตเชียงราย รวมกันวันละไม่ต่ำกว่า 20 นายด้วย.