คืบหน้า 2 ผตห.ฆ่าหั่นศพน้องแอ๋มข้ามพรมแดน ตร.สอบเข้มคนพาข้ามยังอุบไว้เกรงเสียรูปคดี

วันที่ 30 พ.ค.60 หลังจากที่ได้มีการติดตามความคืบหน้ากรณี น.ส.กวิตา อายุ 25 ปี และ น.ส.ปรียานุช อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้โดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ” คดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวร้านคาราโอเกะชื่อดังที่ ต.คำม่วง อ.เขาสวนกลาง จ.ขอนแก่น เหตุเกิดวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาได้หายไปจากการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมาหลังจากเจ้าหน้าที่ไทยสืบทราบว่าไปกบดานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงกันข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย และประสานขอความร่วมมือคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่นหรือทีบีซีให้ตำรวจเมียนมาในการเข้าไปจับกุมเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมานั้น ล่าสุดทางการติดตามจับกุมยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องโดยเช่นเดิม โดยทางทีบีซีฝ่ายไทยยังคงประสานกับทีบีซีฝ่ายเมียนมาให้ช่วยออกติดตามหาตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน แต่ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าใดๆ

โดยเบื้องต้นสืบทราบทั้งคู่ไปอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งตั้งอยู่ใกล้ถนนสายท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ห่างจากพรมแดน อ.แม่สาย เข้าไปในเขตประเทศเมียนมาประมาณ 6 กิโลเมตร โดยได้เดินทางข้ามไปยังฝั่งเมียนมาตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาโดยมีรถยนต์ไปส่งถึงพรมแดนและทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาสไปอย่างถูกต้องแต่เนื่องจากหมายจับพึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 พ.ค.ทำให้ทั้งคู่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้โดยสะดวก

บรรยากาศบริเวณหน้าด่านพรมแดน อ.แม่สาย เชื่อมกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ยังคงเป็นไปตามปกติและทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานขอความคืบหน้าจากฝั่งเมียนมาเป็นระยะๆ ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดการเดินทางออกไปของทั้งคู่เมื่อวันที่ 25 พ.ค.โดยเฉพาะรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ที่พาเดินทางข้ามฝั่งไปอย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพรถเอาไว้ ไม่พบหญิงสาวที่อยู่ในรถโดยมีการปิดกระจกรถเอาไว้อย่างมิดชิดและมีเพียงชาย 1 คนที่เดินออกจากรถเพื่อยื่นเอกสารผ่านแดนตามลำพังก่อนจะกลับเข้าไปที่รถและขับออกไปยังฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก โดยที่ท้ายรถมีกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ 2 ใบ

ด้าน พ.อ.กิดากร จันทรา ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ในฐานะประธานศูนย์ประสานงานชายแดนไทย – เมียนมา หรือ TBC เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้(29 พ.ค.60 )หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบที่พักของผู้ต้องหาทั้ง 2 แน่ชัดแล้วก็ได้ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่าขี้เหล็ก ในการเฝ้าติดตามอยู่บริเวณใกล้กับที่พักเพื่อรอทำการจับกุมแต่ปรากฎว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ไหวตัวทันไม่มายังจุดดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถจับกุมได้ ซึ่งในวันนี้ทาง TBC ก็ได้ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่าขี้เหล็กอีกครั้งเพื่อขอให้ติดตามผู้ต้องหามาส่งมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเพื่อดำเนินคดี ซึ่งก็ได้รับความร่วมือเป็นอย่างดีในการติดตาม และคาด
ว่าจะสามารถจับกุมได้ในเร็วๆนี้
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำชาย 1 คน ซึ่งอ้างว่าเกี่ยวพันกับการเดินทางเข้าออกพรมแดนไทย-เมียนมา แต่ไม่มีการเปิดเผยในเรื่องนี้เนื่องจากเกรงจะเสียรูปคดี ขณะที่เส้นทางหลบหนีของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังคงมืดมนเพราะพื้นที่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก มีเส้นทางถนนอาร์สามบีขึ้นไปทางทิศเหนือสู่บ้านท่าเดื่อ-เมืองเชียงตุง และอีกเส้นทางไปทางทิศตะวันตกในเขตปกครองพิเศษที่ 2 ซึ่งเป็นเขต
ทธิพลของกลุ่มว้า