เวลา 07.30 น.วันที่ 7 ก.ย.60 พ.ต.อ.ธาตรี กุลวัฒน์ ผกก.สภ.แม่จัน จ.เชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.ต.มังกร วัฒวงค์ สวป.สภ.แม่จัน ร.ต.อ.สมฤทธิ์ ติ๊บโคตร รอง สวป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจตราตรงด่านตรวจท่าข้าวเปลือก ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน ซึ่งเป็นถนนเชื่อมหลายอำเภอ และเป็นเส้นทางรอง ในจังหวัดเชียงราย เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดจากชายแดนด้วยการเลี่ยงถนนสายหลัก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ สีชมพูดำ ทะเบียน 2 กจ 5792 กรุงเทพฯ ขับจะผ่านด่านตรวจจึงให้สัญญาณหยุดตรวจพบนายขวัญเมือง กำลังเลิศ อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 54 ม.9 ต.โนนสว่าง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ขับขี่จาก อ.แม่จัน มุ่งหน้าจะไปทาง อ.เมือง ตามลำพังแต่เมื่อตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่พบพิรุธเพราะมีภูมิลำเนาอยู่ต่างพื้นที่ ร่วมึงรุกรนรวม และใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ตลอดเวลา
ทาง ร.ต.อ.สมฤทธิ์ เห็นพิรุธ จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ ตามเส้นทางบ้านกิ่วพร้าว ต.ท่าข้าวเปลือก – ต.จันจว้าใต้ ห่างจากด่านตรวจประมาณ 5 กิโลเมตร พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซีวิคสีเขียว ทะเบียน กฉ 2203 เชียงราย จอดอยู่ข้างทางเขตหมู่บ้านป่าถ่อน ม.11 ต.จันจว้าใต้ จึงได้เข้าสอบถามพบนายสมเกียรติ ริษวร อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 168 ม. 4 ต.เหล่าหลวง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด เป็นคนขับและให้การวกวนพร้อมแสดงอาการพิรุธรวมทั้งโทรศัพท์เช่นเดียวกัน แต่เมื่อตรวจภายนอกไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังอีกส่วนหนึ่งขับรถไปตรวจสอบตามเส้นทางเดิมห่างออกไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร เขตบ้านหนองปึ๋ง ม.5 ต.จันจว้าใต้ ก็พบรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า สีบรอนทอง ทะเบียน 3 กถ 9728 กรุงเทพฯ จอดอยู่ข้างทางอีกคันจึงเข้าไปตรวจสอบพบนายมนตรี ข่องแรง อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 197 ม. 4 ต.เหล่าหลวง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด เป็นคนขับและแสดงอาการตัวสั่นและหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจภายในรถปรากฎว่าที่เบาะนั่งด้านหลังของรถพบกระสอบฟางสีชมพูวางอยู่ 5 ใบจึงขอตรวจสอบดู
จากการตรวจสอบพบว่าภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ชนิดเกร็ดสีขาวห่อด้วยถุงพลาสติกสีขาวบรรจุในถุงชาปิดด้วยระบบสุญญากาศพันด้วยเทปกาวและเขียนอักษร AA ห่อหุ้มด้วยถุงดำ โดยกระสอบใบแรกมียาไอซ์จำนวนละ 19 ก้อน แต่ละก้อนมีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม กระสอบแต่ละใบจึงมีน้ำหนักประมาณ 19-20 กิโลกรัม รวมของกลางยาไอซ์ทั้งหมด จำนวน 99 ก้อน น้ำหนักรวมทั้งหมดประมาณ 99 กิโลกรัม มูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงจึงจับกุมตัวนายมนตรีเอาไว้
สอบสวนเบื้องต้นนายมนตรีได้รับว่ามีการใช้รถยนต์เก๋งและรถจักรยานยนต์เป็นรถนำทางเพื่อสังเกตการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เห็นว่าตรงกับบุคคลที่อยู่กับชายทั้ง 2 คนแรกดังกล่าวจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งคู่เอาไว้ด้วย จากนั้นนำตัวมาตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ปรากฎว่าทั้ง 3 คนโทรศัพท์หากัน
โดยทั้งหมดได้ให้การสารภาพว่าได้รับจ้างจากนายประจวบ ผิวจันทรา ชาว อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีหมายจับจากประเทศไทยและหลบหนีไปอยู่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ติดกับ อ.แม่สาย ให้ลำเลียงยาเสพติดดังกล่าวมาจากพื้นที่ชายแดนด้าน อ.แม่สาย โดยใช้วิธีแบ่งหน้าที่กันคอยขับนำทางเพื่อสังเกตการณ์การทำงานของเจ้าหน้าตำรวจและขนยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป